ท่องเที่ยวทิเบต ทิเบตประวัติ เป็นอย่างไร?

ท่องเที่ยวทิเบต ทิเบตนั้น ตั้งอยู่ใจกลางเอเชียที่ขั้นระหว่าง จีน และ อินเดีย มีพื้นที่มากถึง 2.5 ล้านตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบภูเขา และที่ราบสูงที่สุดในโลกอีกด้วย สภาพอากาศแห้งและหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทิเบตนั้นมีการค้นพบแหล่ง อารยธรรมแรกเริ่มย้อนไปถึงช่วง ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่ชาวจีนและทิเบต – พม่า ยังไม่แยกตัวจากกัน เมื่อกว่า 3,457 ปีก่อนพุทธกาล

จนกระทั่งเริ่มมีการอพยพของชาวจีน ไปตั้งถิ่นฐานใหม่บริเวณ แม่น้ำแยงซีเกียง ส่วนพม่าและทิเบตนั้นดั่งเดิม เป็นกลุ่มหากินแบบเร่ร่อน จนกระทั่งทิเบตได้แยกตัวจากพม่า เมื่อราวพ.ศ. 943 และมีการตั้งถิ่นฐานในบริเวณปัจจุบัน

สืบต่อกันมาเป็นเวลาหลายพันปี ชาวทิเบตนั้นมีความโดดเด่น ทางด้านอารยธรรมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านศาสนา ที่ในยุคเริ่มแรกได้มีการตั้งศาสนาบอน ขึ้นเป็นศาสนาของตัวเอง ตามบันทึกโบราณอันเก่าแก่ ก่อนที่ภายหลังจะเปลี่ยนมาเป็นพุทธ อีกทั้งยังมีวรรณกรรมมากมาย รวมถึงศิลปะวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น และยังเป็นต้นแบบทางด้านศิลปะ ให้กับจีนอีกด้วย

กษัตริย์องค์แรกของทิเบตนั้นคือ ญาตริ ซันโป (Gnya khir btsan po) ผู้ก่อตั้งราชวงค์ทูโบ แล้วยังเชื่อกันว่าเป็นผู้เสด็จมากจากสวรรค์ ซึ่งในหลักฐานนั้น อาจสืบไปถึงที่มาของพระองค์ ว่าอาจมาจากอินเดียก็เป็นได้ โดยที่ท่านมีลักษณะแปลกก็คือ

ท่านมีพังผืดระหว่างนิ้ว และหนังตาปิดจากล่างขึ้นบน คนท้องถิ่นจึงเชื่อว่าพระองค์ เป็นเทวดาลงมาจุติ จึงทำให้สายเลือดกษัตรืย์ เหมือนดั่งสมมุติเทพ มาหลายชั่วอายุคนเลยทีเดียว แต่ทว่าการเมืองทิเบตนั้นกลับร้อนแรง ที่ต้องคอยต่อสู้กับแรงกดดัน

จากประเทศรอบข้างที่เป็นมหาอำนาจ ในโลกยุคโบราณอย่าง อินเดียและจีน จนกระทั่งทิเบตเองตกอยู่ภายใต้จีน ที่เข้ามาปกครองตั้งแต่ช่วง สมัยราชวงค์ถัง และมีการแยกตัวในเวลาต่อมา จนนำไปสู่สงคราม ที่ทำให้ชาวทิเบตเองต้องเสีย

เอกราชร่วมไปถึงอำนาจในการบริหาร ให้กับจีนด้วยครั้งหนึ่งนั้น ทิเบตเองเคยเป็นส่วนหนึ่งของจีนมาแล้ว นั้นเอง ในพ.ศ.2508 จีนได้ตั้งแต่ง ปันเซนลามะ เป็นผู้นำของรัฐบาลทิเบต ภายใต้การจัดตั้งของจีน เพื่อให้ปกครองทิเบต ที่ถูกตั้งเป็นเขตปกครองตนเอง สังกัดภายใต้การควบคุมของจีนนั้นเอง

ท่องเที่ยวทิเบต

ท่องเที่ยวทิเบต ทิเบตมี อารยธรรมเก่าแก่อย่างไรบ้าง?

ด้วยพื้นที่ตั้งรกรากอันเก่าแก่ และยังเป็นจุดกำเนิดของ หลายๆอารยธรรมต่อมาอีกด้วย จากการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดี ที่ว่ามีการค้นพบร่องรอยการตั้งถิ่นฐาน ไม่ว่าจะเป็นยุ่งฉาง หรือเครื่องมืออุปการณ์ ในการดำรงชีวิตอีกด้วย จึงถือได้ว่าทิเบตนั้น ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่มีเชื้อสายอันเก่าแก่ แล้วเป็นกลุ่มบรรพบุรุษ ที่แตกเชื้อสายไปที่อื่นๆ รวมถึงดินแดนอุษาคเนย์อีกด้วย

ที่มีการอพยพกันลงมา ตั้งถิ่นฐานใหม่ยังที่ราบ เพื่อความสบบูรณ์ของชุมชน และหนีภัยจากความอดยากนั้นเอง ด้วยภูมิประเทศของทิเบต เป็นที่ราบสูงและภูเขามากมาย จึงทำให้อาหารนั้นมีอย่างจำกัด ไม่ว่าสัตว์ที่เร่ร่อนไปตามทุ่งหญ้า

เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนฤดู  ด้วยความยากลำบากนี้เอง จึงทำให้เกิดวิทยาการ รวมถึงการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ เพื่อเอาตัวรอดในความยากลำบากนี้นั้นเอง นอกจากอารยธรรมแล้ว ยังมีเรื่องวัฒนธรรมที่มีการผสมผสาน ระหว่างอินเดียและจีน

มีการค้นพบศาสนาเก่าแก่อย่าง ศาสนาบอน จนกระทั่งภายหลังที่ศาสนาพุทธ ได้เดินทางเข้ามามีอิทธิพลในทิเบต จึงทำให้เกิดศรัทธาต่อศาสนาพุทธกันทั้งประเทศ รวมถึงพิธีกรรมอันเคร่งครัดของนักบวช และการยึดในหลักคำสอนอย่างเช่นเจน

ในช่วงหลังๆเองการปกครองของทิเบต ได้ใช้ศาสนาเป็นแรงขับเคลื่อนได้การปกครองอีกด้วย โดยการแต่งตั้งองค์ลามะ ซึ่งถือว่าเป็นประมุขของประเทศ อันสูงสุด ตำแหน่งนี้นอกจากทำหน้าที่ในการปกครองแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมใจทางด้านความเชื่อ ของชาวทิเบตมาอย่างยาวนานอีกด้วย 

ทิเบตสถานที่ท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?

ทิเบตนั้นเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ มาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่หาที่ไหนในโลกนี้ไม่ได้แล้วอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสูงของภูเขา ที่ว่าหากใครมาพิชิตยอดได้นั้น แล้วละก็จะเหมือนกับการ ได้มาถึงจุดสุดยอดของชีวิตแล้วนั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นไฮไลท์ของ ทิเบตนั้นสถานที่แรกนั้นคือ Everest Base Camp ภูเขาเอเวอร์เรส

ที่มีความสูงและยาวทอดตามแนว ชายแดนของประเทศเนปาล และทิเบต แคมป์นั้นตั้งอยู่ทางทิศเหนือชายแดนทิเบต จะทำให้เราได้เห็นวิว จากระดับความสูงที่ต่างกันไปแต่ละชั้น ซึ่งในการเดินขึ้นไปบนเขานั้น จะต้องมีไกด์ท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นคนนำทางในการเดินขึ้น และเพื่อความปลอดภัยในระหว่างเดินทางอีกด้วย ถึงแม้การเดินทางจะยากลำบาก แต่ถ้าได้มาสัมผัสบรรยากาศ

ความสูงบนยอดเขาแล้วละก็ นับว่าคุ้มค่ากับชีวิตอย่างมาก สถานที่ต่อไปคือ ภูเขาไกรลาส (Mount Kailash) หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ ภูเขาแห่งนี้กันมาบ้าง ไม่ว่าจะในที่ต่างๆหรือนิยายวัฒนธรรม เก่าแก่อย่างรามเกียรติ์

ก็มีพูดถึงชื่อภูเขาแห่งนี้ด้วย เพราะภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ทาง ทิศตะวันตกของทิเบต เป็นยอดเขาที่มีอายุเก่าแก่ถึง 50 ล้านปี และยังมีความสูงถึง 22,020 ฟุต ในความเชื่อของศาสนาฮินดู ภูเขาแห่งนี้เชื่อกันว่า เป็นที่ประทับของพระศิวะ

เขาไกลลาสแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางจักรวาล ตามความเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพุทธเอง หรือ ศาสนาเชนอีกด้วย ก็มีการกล่าวถึงในลักษณะเดียวกัน จึงทำให้ได้สัมผัสทั้งวิว และความศักดิ์สิทธฺิ์โดยธรรมชาติ ที่ผู้คนที่นี้ศรัทธากัน เราไปกันต่อที่ Sakya Monastery อารามแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ของเมืองกาเซ เมืองที่มีความใหญ่เป็นอันดับสอง ของประเทศนั้นเอง อารามแห่งนี้มีความฌโดดเด่นคือ

ป้อมปราการสามสีอันได้แก่ สีน้ำตาลอมแดง สีเทา และสีขาว จึงทำให้อารามแห่งนี้โดดเด่น ไม่เหมือนอารามอื่นๆในประเทศ นอกจากนี้แล้วยังมีธรรมชาติล้อมรอบ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำหรือภูเขานั้นเอง สถานที่สุดท้ายนั้นคือ Guge Kingdom (อาณาจักรโบราณกูเก)

เป็นอาณาจักรอันเก่าแก่ ตั้งอยู่ทางทิเบตตะวันตก อาณาจักรแห่งนี้เคยรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่อย่างมาก เมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว แต่ต้องล้มสลายไปกับสงคราม ทางด้านศาสนาและทางวัฒนธรรม ด้วยสถาปัตยกรรมที่เหลืออยู่ 1,416 แห่งประกอบด้วยถ้ำ 879 ุถ้ำ บ้านเดี่ยว 445 หลัง แนวตึกแถว 60 แห่ง เจดีย์ 28 องค์ และ ถ้ำสี่ถ้ำนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกันอีกด้วย โดยรอบๆอาณาจักรนั้น

เหมือนมีกำแพงมาอีกชั้นหนึ่ง แต่แล้วมันคือฝุ่นละอองจากดิน หิน และน้ำ เมื่อโดนลมพัดมาสะสมเป็นเวลานาน จนกลายเป็นตะกอนหนาขึ้น จนมีความสวยงามไปอีกแบบ สถานที่ท่องเที่ยวทิเบต ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังคงมีสถานที่อีกมาก ของทิเบตที่ยังรอนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบการผจญภัยและธรรมชาตินั้นเอง

ท่องเที่ยวทิเบต

ปัจจุบันประเทศทิเบต เป็นอย่างไรบ้าง?

จากกระแสการเมืองเมื่อหลายสิบปี ที่ล้านระอุจนถึงขั้นประมุขของประเทศ อย่างองค์ดาลัยลามะ ต้องลี้ภัยไปอยู่ประเทศอินเดีย เพื่อความปลอดภัย หลังจากที่จีนคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้น ได้รับชัยชนะเหนือฝั่งเจียงไขเช็ก ทิเบตเองได้ประกาศเอกราช หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองของจีน จึงทำให้จีนเองอยากคิดรวบรวม แผ่นดินทั้งหมดที่เคยเป็นของจีนในอดีต

จึงทำให้ประเทศรอบข้างอย่าง แมนจูเลีย หรือมองโกเลียเอง มีสภาพไม่ต่างจากทิเบตเท่าไร แต่จนท้ายที่สุดแล้ว การปกครองตนเองของทิเบตนั้น ก็ยังคงอยู่ในสายตาจีนเสมอ ความเป็นอยู่รวมถึงวัฒนธรรมนั้น ได้ถูกเชื่อมกันด้วย อำนาจทางการปกครองของจีนนั้นเอง ชาวทิเบตเองต้องปรับตัว จึงอาจทำให้วิธีชีวิตประเพณีดั่งเดิม อาจหายไปตามกาลเวลาก็เป็นไปนั้นเอง

สรุปการเดินทางไปเที่ยว ทิเบตเป็นอย่างไร?

การได้ค้นพบประสบการณ์ ในการปีนเขารวมถึงสูดอากาศ ดีๆที่ถือว่าเป็นหลังคาของโลกนี้อีกด้วย จึงทำให้รู้สึกว่าการเดินทางมาเที่ยว ทิเบตนั้นเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ยิ่งถ้าเป็นคนรักการผจญภัยแล้วละก็ นับว่าไม่ควรพลาด เพราะที่นี้มีกิจกรรมที่เหมาะกับสายลุย ไม่ว่าจะเป็นปีนเขา เล่นสกี หรือว่าเดินพิชิตยอดเขา อีกทั้งทิเบตยังมีวัฒนธรรมและอาหาร

ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร วิถีชีวิตของคนในชุมชน ยังคงสืบทอดกันเป็นหลายชั่วอายุคน ชาวบ้านต่างเคยชินกับการ ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ และประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคนในประเทศ

ที่มีศรัทธาต่อพุทธศาสนาอย่างมาก ด้วยความที่คนไทยเป็นชาวพุทธเหมือนกัน อาจทำให้เราซาบซึ้งและเข้าใจ หลักธรรมก็เป็นได้นั้นเอง หากใครที่ชอบการท่องเที่ยวสายธรรมชาติ แล้วละก็นับว่าห้ามพลาดจึงทำให้มองว่า

ทิเบตเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มี ธรรมชาติปกคลุมล้อมรอบ ในพื้นที่ส่วนมากของประเทศอีกด้วย ดินแดนอันกว้างใหญ่แห่งนี้ มีประวัติศาสตร์มากมาย ที่เป็นจำกำเนิดของอารยธรรมต่างๆ ที่เหมือนเป็นบรรพบุรุษของเราอีกด้วย นับว่าเป็นประเทศที่มีครบไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติหรือประวัติศาสตร์ ก็ทำให้ทิเบตนั้นมีความน่าหลงใหล จนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ต่างอยากมาสัมผัสอากาศ และพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสกัน อันเป็นประสบการณ์ที่ ไม่ควรพลาด

เที่ยวต่างประเทศ

ท่องเที่ยวอิตาลี

ยูเวนตุส ล่าสุด