เที่ยวประเทศบรูไน บรูไน ประวัติ เป็นอย่างไรบ้าง?

เที่ยวประเทศบรูไน บรูไน มีอีกชื่อหนึ่งว่า เนอการาบรูไนดารุซซาลาม เป็นรัฐเอกราชบนเกาะบอร์เนียว ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชายฝั่งทางเหนือจรดดืนแดนทะเลจีนใต้ บรูไนมีพื้นที่เดียวบนเกาะบอร์เนียว โดยเกาะที่เหลือรอบๆเป็นของ ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ประเทศบรูไนได้เจริญจนถึงขีดสุด ในยุคของสุลต่านโบลเกียห์

ที่ปกครองจักรววรรดิบรูไนช่วง พ.ศ.2028 – 2071 ถือได้ว่าเป็นผู้พิชิตดินแดนส่วยใหญ่ บนเกาะบอร์เนียว จนกระทั่งการมาถึงของชาวสเปน ในปี ค.ศ. 1521 ได้เดินทางสำรวจทะเล มาพบกับบรูไนโดยนักเดินเรืออย่าง

เฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน และในปี ค.ศ.1578 ได้เกิดสงครามขึ้นระหว่างบรูไนและสเปน ในชื่อสงครามว่า สงครามกัสติเลียน เหตุเพราะประเทศแห่งนี้มี ทรัพยากรที่สำคัญอย่างการบูร พริกไท และทองคำ

บรูไนต้องพบกับภัยผู้รุกราน จากตะวันตกอยู่หลายครั้ง โดยชาติที่เพ่งเล็งบรูไนไว้ก็คือ สเปน และ เนเธอร์แลนด์ ได้แผ่อิทธิพลเข้ามา จนกระทั่งปีค.ศ. 1888 ด้วยความกลัวที่จะตกต้องเป็นเมืองขึ้น

บรูไนได้เซ็นสัญญาเข้า อยู่ภายใต้การอารักขาของประเทศอังกฤษ เพื่อให้เป็นประเทศกันชน ต่อเหล่าประเทศมหาอำนาจยุโรป จนทำให้ปี ค.ศ. 1906 บรูไนได้เข้าอยู่ภายใต้อารักขา ของ อังกฤษเต็มตัว

จนกระทั่งการเข้ามาของญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้บรูไนเองได้กลับสู่เอกราชอีกครั้ง ในช่วงยุคหลังสงคราม บรูไนได้รับเอกราช หลังจากอยู่ภายใต้การอารักขาของอังกฤษถึง 95 ปี และก่อตั้งรัฐธรรมนูธ ที่เป็นรากฐานของชาติพัฒนาใช้จนถึง ทุกวันนี้

เที่ยวประเทศบรูไน มีทรัพยากรสำคัญอะไรบ้าง?

ด้วยสภาพภูมิประเทศของบรูไน เป็นเกาะที่มีเกาะเล็กๆล้อมรอบ บรูไนมีทรัพยากรที่ส่งออกมาอย่างยาวนาน คือจำพวกเครื่องเทศ ทองคำ และการบูร ทำให้ประเทศบรูไนเจริญอย่างมาก ในช่วงค.ศ. 1485 จนถึง ค.ศ. 1528 ท่ามกลางความมั่งคั่งในดินแดนแถบนี้ ทำให้ตกเป็นเป้าหมาย อันหอมหวาน ของประเทศมหาอำนาจชาวตะวันตก

ที่มองหาแหล่งเครื่องเทศในภูมิภาคนี้ และทรัพยากรอื่นๆ เหตุที่ชาวตะวันเสาะหาเครื่องเทศ เพราะยุโรปนั้นเป็นดินแดนที่ ไม่สามารถปลูกเครื่องเทศได้ และก็เครื่องเทศนั้นเป็น ที่เที่ยวยุโรปคนเดียว

ที่ต้องการในการปรุงอาหาร และทำให้อาหารนั้นมีรสชาติมากกว่าเดิม ที่รสชาติอาหารค่อนข้างแย่ อีกทั้งสินค้าพวกเครื่องเทศนั้น มีราคาแพงอย่างมากในยุโรป จึงเป็นที่ต้องการของประเทศต่างๆ

การเสาะหาทรัพยากร การล่าอาณานิคมจึงเกิดขึ้นในช่วงเวลายุคนี้ จนกระทั่งศตวรรษที่ 19 บรูไดสำรวจค้นพบน้ำมัน และแก็สธรรมชาติ ที่เมืองเซรีอา ทำให้บรูไนมีการส่งออกน้ำมัน

เป็นจำนวนมากจนทำให้กลายเป็นเศรษฐกิจหลัก ปริมาณในการผลิตน้ำมันต่อวันอยู่ที่ 180,000 บาเรลต่อวัน จนมาถึงปัจจุบัน ที่โลกนั้นมองหาพลังงานทดแทน น้ำมันที่กำลังจะหมดโลกและ ที่เที่ยวในยุโรปใกล้

หมดความนิยมลงไปในอนาคต ด้วยเทคโลโยนีต่างๆใช้พลังงานทดทนแทนกันหมด บรูไนเองจึงต้องวางแผนเศรษฐกิจ ระยะยาวหลังจากที่ตนส่งออกน้ำมันสินค้าหลักอยู่ประจำ

จนต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของโลกอนาคต ปัจจุบันบรูไนเองนับว่าเป็น จุดยุทธศาสตร์ทางการค้าได้ดี ในแถบบริเวณรอบเกาะบอร์เนียว

ซึ่งมีประเทศพันธมิตรรอบข้างอย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเหนือขึ้นไปหน่อยเป็น ประเทศฟิลลิปปินส์ ทำให้การลงทุนในภูมิภาคนี้ เกิดขึ้นมากมายภายใต้ การร่วมมือกันของประเทศในสมาคมอาเซียน จึงทำให้บรูไนสามารถพัฒนาตนเองได้ ถึงแม้จะเป็นประเทศขนาดเล็กและเป็นเกาะอีกด้วย ที่เที่ยวในยุโรปใหม่

บรูไนสถานที่ท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?

บรูไนเป็นประเทศที่ใช้ศาสนาในการปกครองด้วย เพราะศาสนาประจำชาติของบรูไนนั้นคือ อิสลาม คนในประเทศนี้นับถือกันอย่างมาก จึงทำให้ได้รับอิทธิพลศิลปะวัฒนธรรม ของอาหรับมาด้วย ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมต่างๆ มิสยิด ที่มีความสวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวในบรูไน มีหลายที่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก จะมีสถานที่อะไรกันบ้าง

ทางเราขอแนะนำ มัสยิดสุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟุดดีน (Sultan Omar Ali Saifuddien) ถือว่าเป็นหนึ่งใน มัสยิดที่สวยแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบันดาร์เซอรีเบอกาวัน

เมืองหลวงของบรูไนนั้นเอง ภายในประดับตบแต่งด้วยหินอ่อน และกระเบื้องแบบคลาสสิค ดูเป็นการผสมผสานศิลปะ ระหว่างอิตาลีและอิสลาม รูปทรงนั้นมีความคล้ายทัชมาฮาล ที่เที่ยวในยุโรปไกล

โดยรอบตกแต่งด้วยสวนกว้าง พันธุ์ไม้ต่างๆล้วนดูเป็นดินแดนแห่งสวรรค์ ถือว่าเป็นสถานที่แห่งหนึ่ง ที่มีความงามอย่างมาก สถานที่ต่อไป คือ พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย (Royal Regalia Museam)

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสมบัติล้ำค่า ของประเทศบรูไนเลยก็ว่าได้ เพราะสิ่งของเครื่องใช้ที่จัดแสดงในนี้ เป็นทองคำทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ ในอดีตของประเทศบรูไน ที่อุดมไปด้วยทองคำนั้นเอง

ซึ่งเป็นสมบัติของสุลต่านผู้ปกครอง ที่รวบรวมมาจากทุกยุคสมัย รวมถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชาติ และวัฒนธรรมร่วมในดินแดน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราไปกันต่อที่ อุทยานแห่งชาติอูลู เทมบูรง (Ulu Temburong)

เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของบรูไน ที่มีพืชและสัตว์ป่าหายากนับพันชนิด บนเนื้อที่กว่า 50,000 เฮกเตอร์ ถือว่ามีขนาด 1 ใน 4 ของประเทศบรูไนเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยป่า กิจกรรมมีหลายอย่าง

รองรับสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือ การเดินข้ามเขาบนสะพานแคว้น ท่ามกลางทะเลหมอกธรรมชาติ นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ หาไม่ได้ง่ายๆในชีวิต สถานที่สุดท้าย ถูกใจสำหรับคนชอบกินอย่างแน่นอน

นั้นคือ ตลาดกาดง (Gadong Night Market) เป็นตลาดกลางคืนที่ เต็มไปด้วยของกินแบบสตรีทฟู้ด นอกจากอาหารแล้ว ยังมีร้านค้า โรงภาพยนตร์ คาเฟ่ต่างๆ ให้เราได้เดินชมกัน ทำให้เรานึกถึงถนนข้าวสารเลยทีเดียว นอกเหนื่อจากนี้บรูไน ยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมาย ที่ไม่ได้บอกกล่าว แต่ถ้าหากได้มาเที่ยวแล้วละก็ จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

เที่ยวประเทศบรูไน

บรูไนรอดจากการตกอยู่ภายใต้ อาณานิคมได้อย่างไรในดินแดนแถบนี้?

ด้วยความมั่งคั่งในอดีต ที่เต็มไปด้วยทองคำและวัตถุดิบอันมีราคาแพง ในโลกตะวันตก ทำให้บรูไนเองเป็นจุดยุทธศาสตร์อันหอมหวาน ของเหล่าประเทศตะวันตก ในยุคเริ่มแรกของการสำรวจแผ่นดินใหม่ ของชาวตะวันตกชาติแรกนั้นคือโปตุเกส ที่ได้ค้นพบเส้นทางเดินเรือ มายังดินแดนในแถบนี้ ที่เชื่อมต่อเข้ากับยุโรป ทำให้ชาติอื่นๆในยุโรป

ต่างต้องการทรัพยากรในการพัฒนาประเทศ ต่างได้เข้ามาบุกเบิกยึดครอง ดินแดนต่างๆในแถบนี้ บรูไนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่างต่อสู้ขับไล่จากกองกำลังตะวันตกอยู่เสมอ จนกระทั่งช่วงศตวรรษที่ 19 เที่ยวญี่ปุ่น

ได้เซ็นสัญญาอยู่ภายใต้การอารักขา ของประเทศอังกฤษ เพื่อต้องการหลุดพ้นจากอิทธิพล ของชาวดัตช์ที่พยายามจะแทรกแซง เข้ามายึดครอง หลังจากที่อินโดนีเซีย ตกอยู่ภายใต้การปกครองของ

เนเธอร์แลนด์ หลังจากได้เซ็นสัญญากับอังกฤษแล้ว ทำให้บรูไนได้สิทธิ์ในการปกครองตนเอง แต่ก็อยู่ในเงื่อนไขของสัญญาอังกฤษ ในการผูกขาดการค้า ผลประโยชน์จากการได้เซ็นสัญญานี้ เที่ยวต่างประเทศ

ยังได้รับวิทยาการรวมถึง แนวคิดต่างๆจากอังกฤษ จนสามารถพัฒนากฎหมาย ของประเทศด้วยรากฐานจากอังกฤษ ที่มีระบบกฎหมายคู่ จนกระทั่งปัจจุบันเอง บรูไนได้ส่งออกน้ำมันเป็นสินค้าหลัก จึงทำให้บรูไนมีความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเป็นเกาะเล็กๆแต่กลับมีระบบเศรษฐกิจ ที่ไม่เล็กตามขนาดของประเทศแม้แต่น้อย 

เที่ยวประเทศบรูไน

สรุปการไปเที่ยวที่บรูไน เป็นอย่างไรบ้าง?

การเดินทางไปเที่ยวยังบรูไนนั้น เป็นประสบการณ์ที่ได้กลับไป อย่างบอกไม่ถูก ทั้งด้วยศิลปะวัฒนธรรม และสมบัติของประเทศนั้น ล้วนมีประวัติอันเก่าแก่ กฎระเบียบภายในเมืองนั้น มีความเป็นระเบียบอย่างมาก เพราะที่นี้ปกครองด้วยกฎหมายศาสนา การทำผิดในประเทศนี้ โทษมีความรุนแรงอย่างมาก จึงไม่ค่อยมีใครกล้าทำผิดเท่าไรนัก เที่ยวสิงคโปร์

ผู้คนในประเทศบรูไน ให้ความรู้สึกเหมือนเรา อยู่ร่วมกับพี่น้องชาวมุสลิมภาคใต้ ของบ้านเรายังไงอย่างงั้น อาหารของที่นี้นั้นมีวัฒนธรรมร่วม กับดินแดนในแถบนี้ ที่นิยมการกินข้าวเป็นพื้นฐาน

และละเว้นการบริโภคเนื้อหมู เพราะผู้คนที่นี้นับถือศาสนาอิสลาม การเดินทางท่องเที่ยว ภายในประเทศก็ทำได้ไม่อยาก มีบริการรถและข้อมูลการท่องเที่ยว ทำให้เราไม่งุนงงกับการเดินทาง นับว่าเป็นความประทับใจ ในการเดินทางมาท่องเที่ยว ที่ให้ประสบการณ์ที่ดีจนไม่อาจลืมได้เลย

จึงทำให้มองว่า บรูไนเป็นประเทศ ที่เป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่มาก แต่กลับพัฒนาตัวเอง ให้เป็นประเทศที่มีศักยภาพ ภายในประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอันมากมาย เที่ยวอังกฤษ

ที่อุดมไปด้วยป่าและท้องทะเล สัตว์ป่าและพืชพันธุ์หายากจำนวนมาก ยังคงได้รับการอนุรักษ์ดูแลมาโดยตลอด ด้วยหลักการปกครองทางศาสนา จึงทำให้ไม่มีใครกล้าทำผิกกฎหมาย หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวธรรมชาติ และสถาปัตยกรรม รับรองที่นี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

เที่ยวโซนแอฟริกา

สุดยอดนักเตะยูเวนตุส